ด้วยการปลดล็อกจำนวนมหาศาลที่กำลังจะเกิดขึ้น ตลาด TIA จะต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หรือไม่?

ผู้เขียนต้นฉบับ: ทารัน (ผู้ก่อตั้ง OTC การค้าขาย แพลตฟอร์ม STIX)

เรียบเรียงโดย Odaily Planet Daily ( @โอเดลี่ไชน่า )

แปลโดย อาซึมะ ( @อาซึมะ_เอธ ) 聽

หมายเหตุบรรณาธิการ: Celestia จะปลดล็อก 175.59 ล้าน TIA ในเวลา 22:00 น. ตามเวลาปักกิ่งของคืนนี้ มูลค่าประมาณ $900 ล้าน คิดเป็น 79.91% ของอุปทานหมุนเวียนในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นกิจกรรมปลดล็อกที่ใหญ่ที่สุดและมีผู้ชมมากที่สุดในรอบนี้ สำหรับโครงสร้างตลาดของ TIA หลังจากปลดล็อกแล้ว Taran ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มซื้อขาย OTC อย่าง STIX ได้ผสมผสานข้อมูลบนเชน ข้อมูลฟิวเจอร์ส และข้อมูลแพลตฟอร์ม STIX เข้าด้วยกันเพื่อวิเคราะห์อย่างมืออาชีพ Taran เชื่อว่าแรงกดดันการขายตามจุดจริงนั้นไม่ได้สูงเท่าที่ตลาดจินตนาการไว้ และเนื่องจากกองทุนสำหรับการป้องกันความเสี่ยงในการขายชอร์ตในช่วงต้นจำเป็นต้องปิดลง จึงอาจช่วยชดเชยแรงกดดันการขายตามจุดได้มากขึ้น นอกจากนี้ ชิปส่วนใหญ่ได้ถูกเปลี่ยนมือในตลาด OTC ทำให้โมเมนตัมที่ตามมาของ TIA มีความซับซ้อนมากขึ้น

ต่อไปนี้เป็นข้อความต้นฉบับของ Taran แปลโดย Odaily Planet Daily

แผนภูมิแสดงรายละเอียดการจำหน่าย Celestia (TIA) ใหม่ในวันที่ 31 ตุลาคม 2024 และฉันจะอธิบายข้อมูลนี้ด้านล่าง

เราใช้ข้อมูลบนเครือข่าย (ข้อมูลจาก Celenium) เพื่อคำนวณการเปลี่ยนแปลงในการหมุนเวียน TIA อย่างแม่นยำหลังจากเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน ข้อสรุปขั้นสุดท้ายก็คือหลังจากปลดล็อคแล้ว คาดว่าจะมี 92.3 ล้าน TIA เข้าสู่การหมุนเวียน ซึ่งเป็นขีดจำกัดบนของแรงขายในจุดใหม่

ต้องใช้เวลา 21 วันจึงจะสามารถยกเลิกการเดิมพัน TIA ได้ และผู้ที่ต้องการซื้อขาย TIA ทันทีในวันที่ปลดล็อกคือวันที่ 31 ตุลาคม ก็ได้ยกเลิกการเดิมพันไปแล้ว ปัจจุบัน จำนวนโทเค็นที่ยังไม่ได้เดิมพันทั้งหมด (รวมถึงโทเค็น 24.1 ล้านโทเค็นที่เป็นของบุคคลภายในซึ่งไม่สามารถระบุสถานะได้) และโทเค็นในคิวที่ยังไม่ได้เดิมพันอยู่ที่ประมาณ 92.3 ล้าน TIA

ซึ่งเทียบเท่ากับแรงกดดันการขายสูงสุดอยู่ที่ประมาณ $460 ล้าน หรือราวๆ 50% ของแรงกดดันการขายทั้งหมดที่ปลดล็อกได้ ซึ่งหมายความว่าแรงกดดันการขายที่เกิดขึ้นจริงอาจมีเพียงครึ่งหนึ่งของที่ผู้คนคาดหวังเท่านั้น 聽

หากเปรียบเทียบปริมาณการหมุนเวียนใหม่จริงกับปริมาณการหมุนเวียนปัจจุบัน แสดงว่ามีการเจือจางปริมาณการหมุนเวียน 41.8% 聽

ชิปปลดล็อคจำนวนมากได้รับการซื้อขายผ่านตลาด OTC และผู้ซื้อจะเลือกที่จะป้องกันความเสี่ยงในตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งส่งผลให้อัตราเงินทุนของ TIA พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราคาดหวังว่าหลังจากการปลดล็อคแล้ว ตำแหน่งขายในตลาดฟิวเจอร์สจะหดตัวลง และชดเชยแรงกดดันการขายในจุดนั้นได้บางส่วน รูปแบบการจัดสรรเงินทุนนี้อาจกลายเป็นสัญญาณขาขึ้นสำหรับผู้ซื้อในทันที

การวิเคราะห์ของเราถือว่า TIA จำนวน 11 ล้านรายการที่จะถูกปลดล็อคในคืนนี้ (ไม่รวมการปลดล็อคเชิงเส้นที่ตามมา) ได้เปลี่ยนมือผ่านตลาด OTC ไปแล้ว และเราใส่ไว้ในหมวดหมู่โทเค็นที่ไม่ได้รับการเดิมพัน (โทเค็นเหล่านี้มาจากที่อยู่คลังและไม่ได้ทำเครื่องหมายไว้ในเบราว์เซอร์) โดยรวมแล้ว เราได้จับฉลากที่อยู่ปลดล็อค 292 ที่อยู่ และบางที่อยู่ไม่ได้ถูกจับฉลากอย่างสมบูรณ์ และความแตกต่างเหล่านี้ยังถูกนับรวมในหมวดหมู่โทเค็นที่ไม่ได้รับการเดิมพันอีกด้วย

STIX ได้พบเห็นการเปลี่ยนแปลงในการซื้อขาย OTC ของ TIA ในช่วงรอบนี้ 聽

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า TIA เป็นสินทรัพย์ที่มีการซื้อขายนอกตลาดมากที่สุดชนิดหนึ่งในรอบนี้ เหตุผลหลักก็คือ TIA มอบโอกาสให้ผู้ซื้อที่ต้องการวางรูปแบบทิศทางในช่วงเริ่มต้นของรอบนี้ซื้อในระยะยาวได้เร็ว ผู้ขายก็มีแรงจูงใจของตัวเองเช่นกัน ประการหนึ่งคือเก็บกำไรและขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจำนวนมหาศาล (PNL) และอีกประการหนึ่งคือพวกเขาไม่สามารถคาดการณ์ตลาดกระทิงที่กำลังจะมาถึง (ไตรมาสที่ 3 ปี 2023) ได้

ภายในไตรมาสแรกของปี 2024 แนวโน้มขาขึ้นได้รับการเสริมสร้างและ TIA เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า $20 ในเวลานี้ กิจกรรม OTC เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ในแง่หนึ่ง ผู้ขายไม่เต็มใจที่จะยอมรับส่วนลดที่มากขึ้น (40% +) ในทางกลับกัน ผู้ซื้อไม่ต้องการเสนอราคาสูงเกินไป (มากกว่า $8.5) ในเวลานี้ เราแทบจะไม่เห็นกิจกรรมการซื้อขาย OTC เนื่องจากโดยทั่วไปผู้ขายรู้สึกว่าพวกเขาได้รับเงินจำนวนมากและต้องการรักษาความยอมรับความเสี่ยงต่อไป แม้ว่าพวกเขาจะมีโอกาสขายการลงทุนของพวกเขาเพื่อรับผลตอบแทน 100-800 เท่าก็ตาม

สถานการณ์เปลี่ยนไปเมื่อ TIA ตกลงมาต่ำกว่า $5 ซึ่งเป็นช่วงที่ Celestia Foundation เริ่มระดมทุน OTC $100 ล้านรอบที่ $3 เงื่อนไขการล็อกสำหรับผู้ซื้อเป็นแบบเดียวกันกับนักลงทุนรายบุคคล โดย 33% จะปลดล็อกในวันที่ 31 ตุลาคม 2024 (น้อยกว่า 2 เดือนในรอบ) จากนั้นจะปลดล็อกแบบเชิงเส้นในช่วง 12 เดือนถัดไป

ในไตรมาสที่สามและสี่ของปี 2024 การซื้อขาย TIA OTC มีความคึกคักมาก โดยมีผู้ขายขายหุ้นต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงหุ้นที่ปลดล็อคตัวแรกและหุ้นที่ตามมาทั้งหมด ในการซื้อขาย TIA OTC บน STIX ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมมีปริมาณประมาณ $60 ล้านหน่วย หากถือว่า STIX มีส่วนแบ่งการตลาด OTC 75% อาจบ่งชี้ว่ามูลค่าการซื้อขายของ TIA ที่เสร็จสิ้นผ่านช่องทางสภาพคล่อง OTC ต่างๆ อยู่ที่มากกว่า $80 ล้านหน่วย

สรุปโดยย่อ

โดยรวมแล้ว สถานะการขายชอร์ตในตลาดฟิวเจอร์สจะถูกปิดก่อนวันที่ปลดล็อก ซึ่งหมายความว่าอัตราเงินทุนอาจรีเซ็ตเป็น 0 หรือเป็นบวก ผู้ที่พลาดกำหนดเส้นตายการยกเลิกการเดิมพันในวันที่ 9 ตุลาคมอาจยกเลิกการเดิมพันในช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งจะทำให้อุปทานหมุนเวียนเติบโตต่อไปในเดือนพฤศจิกายน ไม่ว่าในกรณีใด ขนาดของอุปทานใหม่นั้นมีขนาดใหญ่มาก นี่เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ปลดล็อกที่รู้จักกันดีที่สุดในรอบนี้ และเมื่อรวมกับผลกระทบของการซื้อขายนอกตลาด อาจทำให้แนวโน้ม TIA ที่ตามมาสับสนมากขึ้น

บทความนี้มีที่มาจากอินเทอร์เน็ต: เมื่อมีการปลดล็อกจำนวนมากขึ้น ตลาด TIA จะต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหรือไม่?

ที่เกี่ยวข้อง: รายงานการวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับ AI+DePIN: วิวัฒนาการร่วมกันของปัญญาประดิษฐ์และโครงสร้างพื้นฐาน

1. บทนำ ด้วยความนิยมของอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ ความชาญฉลาดและการกระจายอำนาจของโครงสร้างพื้นฐานจึงกลายเป็นแนวทางการพัฒนาที่สำคัญ เครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแบบกระจายอำนาจ (DePin) ผสมผสานอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งเข้ากับสถาปัตยกรรมแบบกระจายอำนาจโดยนำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้ ซึ่งให้รูปแบบใหม่สำหรับการจัดการ การดำเนินงาน การตรวจสอบ และการประมวลผลข้อมูลของอุปกรณ์ทางกายภาพ ในบริบทนี้ การผสมผสานระหว่าง AI และ DePin มอบโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับความชาญฉลาด การทำงานอัตโนมัติ และความสามารถในการปรับขนาด และส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม การเรียนรู้เชิงลึกของ AI การวิเคราะห์เชิงทำนาย การทำงานอัตโนมัติ และฟังก์ชันอื่นๆ ผ่านการทำงานร่วมกันกับ DePin ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ในระบบรวมศูนย์ได้อีกด้วย รายงานนี้จะสำรวจวิวัฒนาการร่วมกันของ…