เมื่อ Bitcoin ทะลุ $70,000 อีกครั้ง เรามาพูดถึงข้อกังวลที่ซ่อนเร้นของเครือข่าย Bitcoin กันดีกว่า

ผู้แต่งต้นฉบับ: Duo Nine

เรียบเรียงโดย Odaily Planet Daily ( @โอเดลี่ไชน่า )

แปลโดย อาซึมะ ( @อาซึมะ_เอธ )

หมายเหตุบรรณาธิการ: ราคา BTC ทะลุระดับ $70,000 อีกครั้งในเช้านี้ และดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม Duo Nine ผู้ก่อตั้ง YCC ได้ชี้ให้เห็นถึงความกังวลที่ซ่อนเร้นของเครือข่าย Bitcoin เขาเชื่อว่าเมื่อโครงสร้างค่าธรรมเนียมของเครือข่าย Bitcoin เปลี่ยนไป เวอร์ชันแพ็คเกจของ xBTC และผลิตภัณฑ์การลงทุนอนุพันธ์ เช่น ETF ในระบบนิเวศต่างๆ กำลังดึงมูลค่าของเครือข่าย Bitcoin ออกมาและดำเนินการโจมตีเครือข่าย Bitcoin แบบแวมไพร์

Duo Nine เชื่อว่าความกังวลนี้อาจดูไม่ร้ายแรงในตอนนี้ แต่มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น อาจกลายเป็นเซลล์มะเร็งที่เติบโตไปพร้อมกับเครือข่าย Bitcoin และต้องได้รับการจัดการอย่างจริงจังในระยะนี้

แม้ว่าทัศนคติของ Duo Nine ต่อโทเค็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอื่นๆ จะมีแนวโน้มที่รุนแรงอย่างเช่น Bitcoin Maxis แต่ปัญหาต่างๆ ที่ถูกชี้ให้เห็นก็ยังคงคุ้มค่าที่จะพิจารณา

ต่อไปนี้เป็นเนื้อหาต้นฉบับของ Duo Nine แปลโดย Odaily Planet Daily

Bitcoin กำลังประสบปัญหา

หากไม่ทำการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้ สิ่งต่างๆ อาจแย่ลงได้

ฉันไม่ได้พูดถึงตารางการแบ่งครึ่งหรือรางวัลบล็อค ปัญหามันใหญ่กว่านั้นมาก

เมื่อเครือข่าย Bitcoin พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ค่าธรรมเนียมธุรกรรมจะค่อยๆ เข้ามาแทนที่รางวัลบล็อก และกลายมาเป็นส่วนประกอบต้นทุนหลักของเครือข่าย

นี่จะเป็นกระบวนการค่อยเป็นค่อยไปซึ่งจะกินเวลาหลายทศวรรษ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหม่กำลังเกิดขึ้น ปัญหานี้ยากที่จะคาดเดา แต่ก็มีสัญญาณบางอย่างปรากฏอยู่แล้ว

ปัญหามีสาเหตุมาจากความจริงที่ว่าผู้คนไม่ได้ใช้ Bitcoin อีกต่อไป  

เมื่อใดก็ตามที่ BTC ถูกรวมเข้ากับ wBTC, cbBTC, tBTC, kBTC หรือ solvBTC หมายความว่า BTC ดั้งเดิมจะถูกวางไว้ในกระเป๋าเงินบนเครือข่าย และจะไม่มีการดำเนินการใดๆ เกิดขึ้น

มันไม่เคลื่อนที่อีกต่อไป ซึ่งหมายความว่าไม่มีการเรียกเก็บเงินอีกต่อไป

มูลค่าดังกล่าวได้รับการโอนไปยัง Ethereum หรือเครือข่ายอื่นแล้ว อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น

เมื่อ DeFi ได้รับการพัฒนา BTC จะถูกทิ้งไว้เฉยๆ บนเครือข่ายดั้งเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ และมูลค่าเหล่านี้จะไหลออกมาในรูปแบบของโทเค็นที่บรรจุหีบห่อ

BitGo มี wBTC, Coinbase มี cbBTC, Kraken มี kBTC, Threshold มี tBTC… เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์เช่นนี้จะไม่หยุดง่ายๆ

ในอีกสิบปีข้างหน้า จะมีโทเค็นที่ห่อหุ้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ในปีนี้ ETF จุด Bitcoin ได้รับการอนุมัติแล้ว 11 รายการ และจนถึงขณะนี้ มีการซื้อ BTC มูลค่ารวม $20 พันล้าน

BTC เหล่านี้อยู่ที่ไหน คำตอบอยู่ในกระเป๋าเงินของผู้ให้บริการดูแลบางราย ซึ่งพวกมันก็อยู่นิ่ง ๆ เช่นกัน

นักลงทุนมีความกระตือรือร้น การค้าขาย ผลิตภัณฑ์การลงทุน Bitcoin บน Nasdaq แต่พวกเขากำลังซื้อขาย ETF ไม่ใช่ BTC ดั้งเดิม

สิ่งนี้คล้ายคลึงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับโทเค็นที่ถูกห่อหุ้ม โดยที่มูลค่าของ BTC ดั้งเดิมได้ถูกแยกออกไปและไหลไปที่อื่น  

คำถามเริ่มเกิดขึ้น: หากมูลค่ายังคงไหลออกต่อไป ใครจะเป็นผู้จ่ายเงินเพื่อความปลอดภัยของเครือข่าย Bitcoin?

Ethereum? Nasdaq? พวกเขาจะไม่ทำอย่างแน่นอน

ภายใต้สมมติฐานปกติ เมื่อโครงสร้างค่าธรรมเนียมเปลี่ยนแปลง ผู้ใช้จะยังคงทำธุรกรรมบนเครือข่ายดั้งเดิมต่อไป โดยสะสมค่าธรรมเนียมให้กับคนขุด

อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงก็คือ Bitcoin ถูกล็อคอยู่ในตู้ มูลค่าของมันถูกโอนไปยังเครือข่ายอื่น หรือถูกแยกออกเป็น ETF และรูปแบบอื่นๆ

ใน การเข้ารหัสลับสกุลเงินโดยทั่วไปเราจะอธิบายสถานการณ์นี้ว่าการโจมตีของแวมไพร์!

การโจมตีแบบแวมไพร์ หมายความว่าสภาพคล่องและมูลค่าในเครือข่ายหรือโปรโตคอลจะถูกดูดและโอนไปยังเครือข่ายหรือโปรโตคอลอื่นพร้อมกับผู้ใช้ของมัน

ตอนนี้ผู้โจมตี Bitcoin กำลังขโมยมูลค่านั้นไป ขอแสดงความยินดีกับ BlackRock ขอแสดงความยินดีกับ Coinbase คุณชนะแล้ว!

โดยที่ผู้ดูแลอย่าง Coinbase ถือครอง Bitcoin มากกว่า 2 ล้านเหรียญในปัจจุบัน BTC จำนวนมากถูกล็อคและค่อยๆ ถูกลืมไป

ที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้ Bitcoin ตกไปอยู่ในมือของบุคคลที่สามได้

ซาโตชิ นากาโมโตะเตือนเราเกี่ยวกับปัญหานี้ในกระดาษขาว: “ตราบใดที่มีบุคคลที่สามระหว่างคุณกับ BTC ของคุณ มูลค่าก็จะสูญหายไป”

ไม่ว่าจะเป็น BlackRock, Coinbase, wBTC หรือ cbBTC สิ่งที่พวกเขาให้ก็แค่ IOU เท่านั้น

พวกเขาจะเก็บ BTC จริงไว้และมอบบัตรกำนัลที่ไม่มีค่าให้กับคุณเป็นการตอบแทน (หากพวกเขาเลือกที่จะผิดสัญญา)

นี่เป็นอันตรายที่แท้จริงต่อตัวคุณและเครือข่าย Bitcoin ทั้งหมด บุคคลที่สามอาจผิดสัญญาได้และ บุคคลที่สามอาจขโมยมูลค่าจากเครือข่าย BTC ได้เช่นกัน ส่งผลให้ความปลอดภัยของเครือข่าย Bitcoin ลดลง

โชคดีที่ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ รางวัลต่อบล็อกของเครือข่าย Bitcoin จะยังคงมีอยู่มากในอีกยี่สิบปีข้างหน้า

ในขณะเดียวกัน ความต้องการ Bitcoin ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากบุคคลที่สามที่พร้อมจะใช้ Bitcoin เพื่อประโยชน์ของตัวเอง

คุณควรทำอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?

ก่อนอื่น ให้พยายามให้บุคคลที่สามถือ Bitcoin ของคุณแทนคุณ การพึ่งพาบุคคลที่สามนั้นขัดต่อเจตนาเดิมของ Bitcoin และยังขัดต่อเจตนาเดิมของคุณในการซื้อ Bitcoin อีกด้วย

ผู้ดูแลที่ดีที่สุดคือตัวคุณเอง คุณควรเก็บ Bitcoin ของคุณไว้ในเครือข่ายดั้งเดิมแทนที่จะพึ่งพาบุคคลที่สาม

ประการที่สอง คุณควรใช้เครือข่าย Bitcoin จริงๆ การพัฒนาของสิ่งธรรมดาและกรณีการใช้งานที่เกิดขึ้นใหม่อื่นๆ หลายคนกำลังจับจองและปกป้องมูลค่าของ Bitcoin บนเครือข่ายดั้งเดิมของมัน ในโหมดการทำงานดังกล่าว มูลค่าของ Bitcoin จะไม่มีวันถูกแยกออก

การใช้เครือข่าย Bitcoin ต่อไปถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในอนาคตของ Bitcoin ด้วยการใช้เครือข่ายดั้งเดิม คุณสามารถช่วยรักษาความปลอดภัยของ Bitcoin ได้ ค่าธรรมเนียมที่คุณจ่ายจะถูกใช้เพื่อจูงใจนักขุดให้ทำการปกป้องความปลอดภัยของเครือข่าย ตราบใดที่ขนาดการใช้งานมีเพียงพอ การเปลี่ยนโครงสร้างค่าธรรมเนียมก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างราบรื่น

บทความนี้มีที่มาจากอินเทอร์เน็ต: เมื่อ Bitcoin ทะลุ $70,000 อีกครั้ง เรามาพูดถึงข้อกังวลที่ซ่อนเร้นของเครือข่าย Bitcoin กันดีกว่า

ที่เกี่ยวข้อง: การสังเกตตลาดของ Metrics Ventures: ตลาดที่วุ่นวายและคุ้นเคย ความคาดหวังและความคาดหวังที่แตกต่างกัน

Metrics Ventures ซึ่งเป็นกองทุนรองในตลาดคริปโต ได้เผยแพร่คู่มือการสังเกตการณ์ตลาดประจำเดือนตุลาคม 1/ ตลาดยังคงปรับตัวขึ้นอย่างไม่เป็นระเบียบเป็นเวลา 6 เดือน ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นครั้งคราวแต่โดยรวมยังคงซบเซา Altcoin จำนวนเล็กน้อยได้พยายามพัฒนาแนวโน้มอิสระ แต่เนื่องจากขาดสภาพคล่องอย่างเห็นได้ชัด ความพยายามส่วนใหญ่จึงจบลงด้วยความล้มเหลว 2/ แม้ว่าอุตสาหกรรมจะอยู่ในสภาวะโกลาหลเทียบเท่ากับในช่วงกลางปี 2023 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ คือการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของกระแสเงินทุนในตลาดและความคิดของผู้เล่นที่เข้าร่วม และผลกระทบจากกำไรบนเครือข่ายภายในเดือนนั้นก็ดีอยู่แล้ว ในมุมมองของเรา การแยกตัวของแนวโน้มของภาคส่วนตั้งแต่ต้นปี 2024 ได้รับการยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานานกว่า…